สวัสดีครับ ช่วงนี้มักจะว่างตอนช่วงเวลาแบบนี้ จึงใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าเปรียบเหมือนกันใช้พลังงานในถัง E ให้หมดก่อนนอน เลนส์เก่า เล่าใหม่ #9 เขียนไปเขียนมาก็มาถึงครั้งที่ 9 แล้ว หวังว่าข้อมูลเหล่านี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่พยายามค้นหาไม่มากก็น้อย นะครับ ต้องขอขอบพระคุณคนที่ตามอ่านอยู่นะครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ
ครั้งนี้ผมจะมาพูดถึงเลนส์ FED Industar10 50mm 3.5 ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่าผมไม่ได้เป็นคนแรกที่พูดถึงเลนส์ตัวนี้ ก่อนหน้านี้น้าคนธนฯเคยเขียนไว้นานมาแล้ว ส่วนที่ผมเขียนนั้นเป็นเพียงส่วนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น้าคนธนฯไม่ได้กล่าวถึง เลนส์เก่า เล่าใหม่ #9 FED Industar10 50mm 3.5 Soviet Elmar Leica คนจน V2 ส่วน V2 ผมพยายามจะสื่อว่าเป็นภาคที่สองต่อขยายจากที่น้าคนธนฯได้เขียนเอาไว้ ขอขอบพระคุณน้าคนธนฯ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เรามาเริ่มกันเลยครับ
*ถ้าหากมีผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ*
FED เป็นชื่อแบรนกล้องฟิลม์ Rengefider Camera ของ สหภาพโซเวียต [หรือ รัฐเซียในปัจจุบัน] ผลิตกล้องออกมาในช่วงปี 1934 จนถึง 1996
โดยชื่อนี้โดยย่อมาจาก Felix Edmundovich Dzerzhinsky ชื่อของรัฐบุรุษของ Soviet
โดยในช่วงแรกๆการผลิตกล้องของ FED คือการ Copy กล้อง Leica เรามาลองดูภาพกล้องของ FED ในรุ่นต่างๆกันครับ กล้องยิ่งออกก็ยิ่งมีการพัฒนาไปตามลำดับ [โดยเฉพาะ FED1 มีรุ่นยิบย่อยเยอะมาก ยิ่งผลิตก็ยิ่งพัฒนาไปเรื่อยๆครับ หากต้องการดูละเอียดแนะนำว่าให้อ่านจากใน Link อ้างอิงที่ผมจะแนบไว้ทื่ท้ายกระทู้นะครับ]
FED1
FED3
FED4
FED5
ส่วนข้อมูลข้างใต้ต่อไปนี้ผมนำมาเล่าอ้างจากกระทู้ของน้าคนธน ครับ ขอบคุณน้าคนธนล่วงหน้าครับผม
https://topicstock.pantip.com/camera/topicstock/2012/04/O11932056/O11932056.html
"ยุคสงครามโลกครั้งที่1 ตอนนั้นเยอรมันและโซเวียตได้ทำโครงการหนึ่งร่วมกันคือ Weimar Republic and Bolshevist Russia ทำการสร้างและวิจัยอุปกรณ์ทางทหารโดยเฉพาะกล้องที่สามารถถ่ายภาพตรวจการทางอากาศได้ จากนั้นเยอรมันได้ออกกล้อง Leica1,2 ออกมาเพื่อให้เป็นกล้องพกพาในการทหารเพื่อสอดแนมทางอากาศและสนามรบในช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง แต่รัสเซียก็ได้แฮ็ปเอาแนวคิดมาเรียบร้อยแล้วโดยทำโครงการลับตัวหนึ่งคือ VOOMP secret experimental โดยตั้งโรงงานที่เลนินกราดโดยก็อบปี้เอา Leica2 มาทั้งดุ้นมาผลิตเองเพื่อใช้เป็นกล้องทางการทหารในยุคก่อนสงครามโลกในปี 1932 หรือเมื่อแปดสิบปีที่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นระบบเลนส์ ระบบชัตเตอร์แม้แต่ตัวบอดี้ทุกกระเบียดนิ้วรัสเซียก็อบปี้ Leica1,2 ออกมาทั้งหมดและทำสำเร็จในอีกสองปีต่อมาเราลองมาดูภาพประกอบกันครับ
Leica 1 VS FED1
Leica 2 VS FED 2
เจนเนเรชั่นสุดท้ายที่ลงเลนส์โค๊ทแล้วและปรับ F-stop f4.5, f6.3.มาเป็น f4, f5.6 ตามลำดับของ F สมัยใหม่" ภาพประกอบ F แบบเก่าและแบบใหม่เทียบกัน
ภาพเทียบกันระหว่างต้นฉบับ ด้านซ้าย Leica Elmar 50mm 3.5 / ขวา Fed Industar 10 50mm 3.5
ตามตำนานที่น้าคนธนเขียนไว้ว่า " เลนส์ตัวนี้ให้เล่นตัวที่ผลิตเมื่อปี 1948-1949 เพราะมันคือเลนส์ 5 elements Leitz Elmar ที่รัสเซียปล้นมาจากเยอรมันหลังสงครามโลกเอามาลงในตัวบอดี้ Industar 10 ทำได้เกือบสองปีก็เลิกเพราะเลนส์ที่ปล้นมาหมดแล้วจึงหันมาปล้นเอาเลนส์ 4 element Zeiss Tessar มาผลิตแทน
ตามลำดับบน ซ้าย ขวา Industar 10 , 50 , 22
แต่ถ้าเป็นเลนส์รุ่นก่อนหน้านั้นมันยังไม่โค๊ทและรัสเซียผลิตเองคุณภาพผิดกันราวฟ้ากับเหว ดังนั้นใครบอกว่า Industar10 คือเลนส์ธรรมดาๆไม่ได้เด่นอะไรก็ใช่ถูกต้องแล้ว แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ผมบอกไว้มันคือ Leica ตัวน้อยๆของคนจนโดยแท้"
ช่วง Serial ที่ว่าคือช่วงนี้ครับ ซึ่งผมคิดว่าขาเก๋าคงช้อนเก็บไปกันหมดตลาดแล้วล่ะครับ
กลับมาเข้าเรื่องในส่วนที่ผมต้องการจะเขียนในกระทู้นี้คือ เมื่อผมได้อ่านกระทู้ของน้าคนธนแล้วก็เกิดอาการอยากรู้อยากเห็นอยากลองว่า แล้วถ้าเลนส์ตัวธรรมดา ไม่ได้ใช่ช่วงที่เอาเลนส์ปล้นเขามา มาใส่ใน Industar ตัวนี้จะเป็นอย่างไร สุดท้ายก็ได้มาลองจนได้ครับ *ย้ำอีกครั้งว่านี่คือเลนส์ตัวธรรมดา ไม่ใช่ Serial ในตำนาน* เข้าเรื่องเลยนะครับ
รูปแบบ Optical Design
มาดูหน้าตาของเลนส์กัน เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาให้ใช้กับกล้องฟิลม์ Rangefinder [ช่องมองภาพอยู่ข้างๆ และไม่มีกระจกสะท้อนภาพ]
ปรับรูรับแสงที่ติ่งด้านหน้าเลนส์
เม้าท์ M39 ตามมาตราฐานของ Leica
ผมพยายามถ่ายให้เดือยที่ไว้ล็อคและคลายเวลายืดหดเลนส์
ใบเบลดรูรับแสงเปิดกว้างสุด
หรี่ลงมา
เลนส์นี้เรียกว่า collapse เพราะว่าสามารถยืดหดได้ ตามภาพครับ
เป็นเลนส์ที่ดูหล่อมาก ประกบกับบอดี้สีเงินเรียกว่าสวยตั้งแต่ยังไม่ถ่ายเลยทีเดียว เลนส์มีระยะเข้าใกล้แบบอยู่ที่ 1.25 เมตร
มาลองดูโบเก้จากเลนส์นี้กันก่อนครับ เป็นเรื่องปกติของกล้องและเลนส์ RF หรือ Rangefinder ที่จะมีระยะ Close Focus อยู่ที่ 1.25 - 1.50 เมตรเป็นขั้นต่ำ ทำให้ต้องยืนห่างแบบมากพอสมควร ผมพยายามรีดโบเก้เท่าที่ทำได้ครับ
เลนส์ตัวนี้สู้แสงได้ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเป็นตัว Serial ในตำนานนั้นสามารถสู้แสงได้สบาย
ภาพตัวอย่างจากเลนส์ตัวนี้ครับ
*ผมถ่ายด้วยกล้อง Olympus OMD EM1 , OMD EM5 Panasonic GX7 และ Fujifilm XE1 ซึ่งเป็นเซนเซอร์ m4/3 และ APSC ภาพจากเลนส์ตัวเดียวกันนี้หากถ่ายด้วยกล้องที่เซนเซอร์ต่างขนาดกันไปเช่น APSC หรือ FullFrame อาจจะได้ลักษณะโบเก้ที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ เรียกว่าต่างเซนเซอร์โบเก้ไม่เหมือนกัน แต่โทนของภาพจะเคียงกันครับ*
Close Focus ค่อนข้างห่างเลยใช้วิชามารจากคนรุ่นก่อน หมุนเลนส์ออกจาก Adaptor สัก 2-3เกลียว เอามือประคองไปถ่ายไป
ภาพข้างใต้นี้ถ่ายด้วย EM5
ภาพข้างใต้นี้ถ่ายด้วย XE1
ถ่ายภาพขาวดำได้ดี เจอแสงดีก็ปกติทั่วๆไป แต่เมื่อแสงน้อยโทนภาพจะขรึ้มขึ้นมาทันที
ข้อดี
- เลนส์ตัวนี้ให้สีที่แปลก มีติดหางๆมาจากตัวตำนานของน้าคนธนฯ ให้สีแบบที่เลนส์รุ่นใหม่ๆหาเทียบได้ยาก
- ถ่ายภาพขาวดำได้ดี มีสองโทน แสงดีสีก็ปกติ เหมือนคนที่โกนหนวด แต่แสงน้อยจะดูเคร่งขรึ้ม เปรียบเหมือนคนที่ไว้หนวด อารมณ์แบบนั้น
- F แรกฟุ้งเบาๆ ยิ่งหรี่ F ยิ่งคม
- หล่อ ใส่บอดี้สีเงิน เท่ห์ยังกับกล้องฟิลม์
ข้อเสีย
- ย้อนแสงแฟลรเละพอสมควร นึกถึงดวงอาทิตย์ของเด็กอนุบาล รัสมีรอบๆแบบนั้นแหละครับ ต้องขยับหลบมุมแสงดีๆ
- ระยะเข้าใกล้แบบ 1.25 เมตรถือว่าค่อนข้างห่าง อาจจะไม่คุ้นชินกับคนที่ไม่เคยเลนส์ m39 มาก่อน
สรุป เลนส์เป็นเลนส์ที่ให้สีแปลกดี หากเทียบกับตัวตำนาน มีข้อด้อยชัดเจนเรื่องการสู้แสง และแฟลรที่เละกว่า ส่วนสีนั้นให้สวยน้องๆตัวตำนานเลยทีเดียว มีราคาไม่แรงตัวเล็ก หากใครสนใจเลนส์ที่ให้โบเก้สวยๆให้มองข้ามตัวนี้ไปก่อนเลย อย่างที่ทราบกันว่า เลนส์ตัวนี้ผลิตเพื่อให้ใช้ในการทหาร ฉะนั้นจะเน้นความชัดเจนมากกว่าการโบเก้ แต่ก็เป็นเลนส์ที่แปลกและมีเสน่ห์แบบรัฐเซียอีกตัวนึงที่น่าลองหวังว่าข้อมูลส่วนนี้คงจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังสนใจเลนส์ตัวนี้อยู่ ขอบคุณมากครับที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ ลากันเท่านี้ สวัสดีครับ
ภาพที่ไม่ผ่านการย่อสามารถดูได้ที่นี่ครับ
https://www.flickr.com/photos/136282041@N06/albums/72157690571151225